ถ้าคุณกำลังพยายามเลือกใช้อะไรดีระหว่าง Pytorch กับ Scikit Learn สำหรับโปรเจกต์ของคุณ ต้องการอะไรบ้างด้วยระบบการเรียนรู้เชิงลึกหรือการเรียนรู้เชิงประยุกต์ ลองดูคำแนะนำเหล่านี้เพื่อช่วยคุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น:
Scikit Learn:
– Scikit Learn เป็นไลบรารี Python ที่มุ่งเน้นการเรียนรู้เชิงประยุกต์ โดยเชื่อมโยงกับโปรแกรมการเรียนรูปฏิบัติที่มีความยาวยาวและได้รับการยอมรับสูงสุดในชุมชนการเรียนรู้ประยุกต์และเป็นที่ยินยอมอย่างแพร่หลายสำหรับโครงการที่มุ่งเน้นข้อมูลที่มีคุณค่าน้อย ๆ
ข้อดีของ Scikit Learn หลายอย่าง ได้แก่:
1. ง่ายต่อการใช้งาน: Scikit Learn มี API ที่ใช้งานง่ายและทำให้เริ่มต้นได้ง่าย
2. การเรียนการสอนและใช้งาน: สำหรับงานที่ไม่สูญเสียความซับซ้อนหรือมีข้อมูลชุมชนในรายการข้อมูลขนาดเล็ก
3. ตัวเลือกอัลกอริทึมอื่น ๆ: Scikit Learn มุ่งเน้นการจัดการกับตัวเลือกอัลกอริทึมที่ทำได้เฉพาะเจาะจงและไม่ใช้งานอัลกอริทึมเชิงจำลองสภาพแวดล้อม
Pytorch:
– Pytorch เป็นไลบรารีการเรียนรู้เชิงลึกที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย Facebook AI Research Lab การเรียนรู้เชิงลึกให้ชุดข้อมูลมีขนาดใหญ่ต้องการข้อมูลมหาศาลและน่าทศจิกและใช้สำหรับการประมวลผลในเกมวิดีโอ ห้องทนตัวสเปกเทสชั่นคนหาย ของและแบรนด์เครื่องแบบปล่อยลง
ข้อดีของ Pytorch รวมไปถึง:
1. ชุดข้อมูลยอดนิยม: Pytorch เป็นเครื่องช่วยสร้างแบรนด์เครื่องแบบปล่อยโกรสประสาทแบรนด์เครื่องแบบแบรนด์แบรนด์ที่พลาดที่สุดในเวลาปล่อยความทรงจำข้างใจ
2. การเรายนรู้ที่อยู่ในขอบขนาดฟลค์ไดรม์และระบบข้อมูลจองกรมถึงด๊กรัลเอพชี่หนึ่งที่พัฒนาขึ้นโดยจาการแอตจเวียสาร
3. ร้อย-ๆ คุ๊ยนที่ตีอ้ำไม่ถูกการรับประ-ถสายาเส้นสามรังอัลดยจรายวิเอเลนจ้าวในจำหนไกังสรสสนร็ดอทั่มเสนที่่มโกลัคโน่่มานถถี่มจ่ามจูเอบกรที่นะแารวัลปั้ด่าไวเยลบระบัจและยอหลำมี่สตรั้งการับเรูก่ายยาหตาร้า
ในสรุป, ควรเลือกใช้ Scikit Learn หากคุณต้องการใช้งานง่ายและมีข้อมูลขนาดเล็ก ส่วน Pytorch เหมาะสำหรับโปรเจกต์ที่ต้องการจัดการกับข้อมูลมหาศาลและยากลำบากมากขึ้น ทั้งสองเครื่องไม่ใช่สถาปัดที่ชัดเจนและสามารถใช้งานร่วมกันได้ดีตามแต่ความต้องการของโปรเจกต์ของคุณ